พระพุทธเมตตาเสนานาถ หลังพระปรมาภิไธย ภ.ป.ร.ลอยองค์ เนื้อนวะ กองทัพบก จัดสร้างเนื่องในวโรกาส 84 พรรษา ร9 ปี2556 พร้อมกล่องเดิม

   กองทัพบก ใด้จัดสร้าง พระพุทธเมตตาเสนานาถ ขึ้นเมื่อปีพุทธศักราช 2556 โดยประกอบพิธีมหาพุทธาภิเษกอย่างยิ่งใหญ่ เมื่อวันที่ 27 ถึง 29 กรกฎาคม 2556 ณ พุทธมณฑล ซึ่งได้อาราธนาพระสงฆ์ทรงสมณศักดิ์ จำนวน 37 รูป พระเกจิอาจารย์ที่มีชื่อเสียงจำนวน 108 รูป และพระสงฆ์ จำนวนรวม 2600 รูป ร่วมเจริญภาวนาอธิษฐานจิต
   ทั้งนี้เพื่อนำรายได้ไปจัดหาเครื่องมือและอุปกรณ์ทางการแพทย์ให้กับโรงพยาบาลในสังกัดกองทัพบกจำนวน 37 แห่งทั่วประเทศ และนำไปจัดทำโครงการหรือกิจกรรมของกองทัพบก เพื่อถวายพระเกียรติและถวายพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 โดยสามารถติดต่อขอเช่าบูชาได้ที่ โรงพยาบาลในสังกัดกองทัพบก หน่วยบัญชาการสงครามพิเศษ และกรมสวัสดิการทหารบก
 กองทัพบก จัดสร้างพระพุทธรูปบูชาและพระเครื่อง เพื่อถวายเป็นพระราชกุศล วันที่ ๒๗ สิงหาคม ๒๕๕๖ ณ วัดวชิรธรรมาราม อำเภอมหาราช จังหวัดพระนครศรีอยุธยา พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก เป็นประธานถวายพระพุทธเมตตาเสนานาถ ที่กองทัพบกจัดสร้างพระพุทธรูปบูชาและพระเครื่อง เพื่อถวายเป็นพระราชกุศล พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในวโรกาสทรงเจริญพระชนมพรรษา ๘๔ พรรษา และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ทรงเจริญพระชนมพรรษา ๘๐ พรรษา สำหรับการจัดสร้างพระพุทธเมตตาเสนานาถองค์ใหญ่ มีขนาดหน้าตัก ๙๐ นิ้ว สูง ๒๘๐ นิ้ว อัญเชิญประดิษฐาน ณ วิหารวัดวชิรธรรมาราม อำเภอมหาราช เพื่อให้พุทธศาสนิกชนทั่วไปได้สักการบูชา ทั้งนี้ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานชื่อพระพุทธรูปว่า “พระพุทธเมตตาเสนานาถ” แปลว่า พระพุทธเจ้ามีพระเมตตาทรงเป็นที่พึ่งของหมู่ทหาร และพระบรมราชานุญาตให้นำตราสัญลักษณ์การจัดงานเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จ พระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา ๗ รอบ ๕ ธันวาคม ประดิษฐานที่ผ้าทิพย์ ณ บริเวณฐานพระพุทธรูป โดยพระพุทธรูปออกแบบโดย อาจารย์สาคร โสภา ผู้ทรงคุณวุฒิด้านศิลปกรรมไทย รองผู้อำนวยการฝ่ายบริหารวิทยาลัยช่างศิลป์ สถาบันพัฒนศิลป์ กระทรวงวัฒนธรรม โดยรวบรวมศิลปะและประติมากรรมด้วยพุทธศิลป์ที่โดดเด่นเป็นยุคเชียงแสน สุโขทัย ธนบุรี รัตนโกสินทร์ และอยุธยา มาผสมผสานให้ได้พุทธรูปทรงเครื่องปางมารวิชัยที่มีความงดงาม สมบูรณ์ สถิตไว้ในสมัยรัชการที่ ๙ สืบไป